นายวิมุติ บันทึกการเดินทางของนายวิมุติ โลกสีเขียว หลาน สหายลาดกระบัง

แชงกรีลา ย่าติง ลี่เจียง

17-26 ตุลาคม 2557



19 ตุลาคม 2557


เมื่อคืนตั้งปลุกด้วยโทรศัพท์ไว้ที่ ๐๖:๑๐ น. แต่ก็เกือบเป็นเรื่อง เพราะว่าลืมเปลี่ยนเวลาของโทรศัพท์ให้เป็นเวลาจีน ทำให้โทรศัพท์ไม่ดังในเวลาที่ต้องการ ดีว่าโทรศัพท์ของมิ้นช่วยไว้ ไม่ใช่ห้องผมห้องเดียวที่มีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตั้งปลุกในโทรศัพท์ เพราะได้ยินว่า ติ๋ว จิ พี่ปู และป้าอ้อย ก็มีเหตุให้ต้องตื่นมาเสริมสวยตอนตีสี่
รถแท็กซี่มาส่งที่ บขส. เราขอเบอร์โชเฟอร์ไว้ด้วย เผื่อได้เรียกใช้อีกครั้งตอนกลับมาที่นี่ บริการดาตาโรมมิงที่จิใช้อยู่ช่วยอำนวยความสะดวกได้มาก หากไม่มีแล้วการติดต่อเรียกแท็กซี่จะไม่สะดวกอย่างนี้ การซื้อซิมในจีนใช้ลืมไปได้เลย เพราะกฎหมายจีนไม่อนุญาตให้คนต่างชาติซื้อซิมอีกแล้ว

ระหว่างรอรถเราก็กินอาหารเช้าง่าย ๆ ซื้อจากหน้าสถานีรถ ทั้งไข่ต้มชา ข้าวโพด หมั่นโถว มาม่า ฯลฯ ใจผมอยากกินมันเผาอย่างที่เล็งมาตั้งแต่วันแรก แต่ตอนนี้ไม่เห็นมีขาย จึงซื้อไข่ต้มมากินเพราะสั่งเป็นอย่างเดียว

กินอาหารเช้าระหว่างรอรถ


รถออกเดินทางได้ไม่เท่าไหร่ผมก็เริ่มแปลกใจที่เห็นวัดซงจ้านหลิน เพราะเส้นทางไปย่าติงไม่ควรจะผ่านวัดนี้ เซงก็บอกว่าที่ตั๋วมีระบุว่าเส้นทางอ้อม ก็ไม่รู้ว่าจะอ้อมไปไหนและทำไมต้องอ้อม เส้นทางที่เรากำลังไปนี้เป็นเส้นทางที่ไปเปินจื่อหลานซึ่งมุ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ แทนที่จะขึ้นเหนือตรง ๆ อย่างที่เคยไป

ระหว่างทางก็สังเกตเห็นว่า ต้นไม้สองข้างทางแทบไม่เปลี่ยนสี โดยบริเวณใกล้นาพาไห่ ตรงนั้นเขียวขจีเลยทีเดียว เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ๔๘ ที่เคยมา ตอนนั้นริมนาพาไห่หลากสีแล้ว เมื่อเห็นเป็นอย่างนี้ก็ทำให้เราใจไม่ค่อยดีนัก หวังลึก ๆ ว่าอีกสองวันที่เราจะไปถึงย่าติง อาจจะเปลี่ยนสีพอดีก็ได้



วิว ณ จุดเข้าห้องน้ำกลางทาง


เท้งไม่เคยลงเข้าห้องน้ำระหว่างทาง แถมยังคุยโวว่าเก็บได้เยอะ




ความกังวลไม่ได้อยู่แค่เรื่องสีใบไม้เท่านั้น เส้นทางที่เรานั่งมานี้รถติดมาก หลายช่วงมีการก่อสร้างขวางถนน แค่เส้นทางอ้อมก็เสียเวลามากพออยู่แล้ว นี่ยังจะรถติดอีก แล้วจะถึงเต้าเฉิงกี่โมงกัน นอกจากความกังวลแล้วก็ยังมีความทรมานมาอีก เพราะสภาพถนนแย่ โดยเฉพาะเมื่อพ้นเขตยูนนานเข้าสู่เขตเสฉวนมาแล้ว นั่งหัวคลอนตลอดเส้นทาง บางครั้งหัวก็ฟาดไปโดนสลักล็อกกระจกที่หน้าต่างอีก ข้อดีอย่างเดียวของรถเที่ยวนี้ก็คือไม่มีคนสูบบุหรี่เลย

เด็กตามหมู่บ้านมาขอขนมจากผู้โดยสาร เข้าใจว่าคงเป็นกิจกรรมประจำหมู่บ้าน ผู้โดยสารจีนหลายคนโยนขนมให้หลายถุง เหมือนเป็นเรื่องที่รู้กันดี


จุดถ่ายทุกข์อีกจุดหนึ่งช่วงเที่ยงวัน




เริ่มเห็นสีเหลืองมากขึ้น




เรามาถึงเมืองเซียงเฉิงตอนสามโมงครึ่ง รถหยุดที่สถานีรถโดยสารให้ผู้โดยสารทำธุระส่วนตัว ๓๐ นาที หลายคนถือโอกาสกินมื้อเที่ยงเสียเลย ผมกินแค่ไอติมเท่านั้นเพราะไม่หิว เซียงเชิงเป็นเมืองบนเชิงเขา แทบไม่มีที่ราบ ลานจอดรถของสถานีรถก็เป็นทรงรียาว พื้นที่แค่ไม่เกินสองสนามบาส ทั้งเมืองมีแต่บันได จะไปเดินเข้าส้วมก็ต้องขึ้นบันได จะเดินไปซื้อส้มหน้าสถานีก็ต้องลงบันได

ลานจอดรถสถานีรถโดยสารเซียงเฉิง


แทร็กกำลังจะรับรู้รสชาติของไส้กรอกจีน แมวที่บ้านยังเมินเลยนะจะบอกให้




ถึงช่วงที่เส้นทางตัดผ่านทุ่งหญ้าบนภูเขาสูง เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงเมืองเต้าเฉิงแล้ว


เรามาถึงเต้าเฉิงตอนเกือบทุ่ม พอดีกับช่วงที่แสงแดดลับจากยอดเขาพอดี รวมแล้วใช้เวลาเดินทางถึง ๑๑ ชั่วโมงครึ่ง เป้กระเป๋าที่อยู่ในช่องเก็บท้ายรถคลุกฝุ่นจนแทบจำไม่ได้ โรงแรมที่เรามองหาคือยูสโฮสเทลที่เคยมาพักเมื่อสองปีก่อน เส้นทางยังจำได้ดี เดินไปแค่ไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึง เราได้ห้องพักตามต้องการ ได้ห้องคู่ห้าห้อง ห้องสี่คนหนึ่งห้อง ค่าพักคืนละ ๕๐ หยวนต่อคน สภาพของโฮสเทลครั้งนี้เปลี่ยนไปมาก ล็อบบี้ที่เคยดูโรแมนติกตามประสายูสโฮสเทลอินเตอร์ดูรกร้างเหมือนไม่ได้ใช้งานมานาน พนักงานโฮสเทลนั่งทำงานอยู่ในห้องพักห้องหนึ่งชั้นล่างที่เป็นทั้งห้องนอนพนักงาน ห้องทำงาน และห้องเก็บของ ดูแล้วเหมือนกิจการซบเซาลงมาก ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้

หลังจากเข้าที่พักแล้วก็ออกมากินข้าวกันที่ร้านใกล้สถานีขนส่ง จำชื่อร้านไม่ได้ แต่เราเรียกกันว่า ร้านไฟดับ เพราะเคยมากินครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นกินในช่วงที่ไฟดับทั้งเมือง คนกินก็กินในความมืด คนทำก็ถือไฟฉายผัดกับข้าว รสชาติเยี่ยมยอด แต่มาครั้งนี้กลับมีหมาล่า ทำให้รสชาติหมดสนุกไปมาก

วันนี้อาการวิงเวียนและปวดขมับที่เกิดจากการแพ้ความสูงของผมหายไป แต่ระหว่างนั่งรถบัสมีอาการปากแห้ง และรู้สึกปวดหัวและคลื่นไส้คล้ายเมารถ ต้องคลายเข็มขัดจึงจะทุเลาลง คิดว่าคงไม่ใช่เมารถมั้ง เพราะไม่เคยเมามาก่อน





คืนนี้อากาศหนาวมาก โทรศัพท์ของมิ้นบอกว่าอุณหภูมิหกองศา แม้จะมีน้ำอุ่นให้อาบ แต่รู้สึกยังไม่พร้อมจะสัมผัสน้ำ ขอซักแห้งก็แล้วกัน



เผยแพร่ : 16 พ.ย. 64 แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ย. 65