นายวิมุติ บันทึกการเดินทางของนายวิมุติ โลกสีเขียว หลาน สหายลาดกระบัง

ล่องทะเลทรายโกบี คารวะจิ๋นซีที่ซีอาน เบิกบานใจเอ๋อจีน่า ลั้นลาฮั่วซาน

7-16 ตุลาคม 2556



ตุลาคม 2556 (ต่อ)

คราวนี้เราใช้เวลาที่หลุมสามไม่นานนัก ออกจากหลุมสามก็มาต่อที่หลุมสองเลยครับ หลุมสองนี้พื้นที่ใหญ่โตไม่แพ้หลุมหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่ขุดไปแค่ถึงแพซุงที่ปิดทับเป็นหลังคาโรงหุ่นเท่านั้น ยังไม่ได้ขุดเอาตัวหุ่นออกมา ส่วนที่เปิดก็ไม่ได้มีหุ่นยืนตั้งแถวสวยงามแบบในหลุมหนึ่ง หากแต่กองก่ายระเกะระกะอยู่ภายในหลุม การขุดกู้ดูเหมือนจะหยุดไปนานแล้ว แต่ส่วนที่น่าสนใจของหลุมสองนี่ก็คือ ภายในอาคารมีหุ่นที่สภาพดีตั้งโชว์ให้นักท่องเที่ยวดูได้ชัด ๆ หลายตัว รวมถึงชิ้นส่วนเครื่องมือเครื่องไม้และอาวุธต่าง ๆ ที่ขุดพบด้วย

ซองที่ยังไม่ขุดค้น ยังมีท่อนซุงปิดทับอยู่ ความแอ่นของซุงไม่ได้เกิดจากน้ำหนักที่กดทับเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการเผาทำลายจนซุงแอ่น และไปกดทับหุ่นที่อยู่ข้างใน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หุ่นเสียหาย






หุ่นทหารราบในชุดเกราะ ตัวนี้ถูกขุดขึ้นมาจากใจกลางของกองพลธนู ซึ่งอยู่ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของหลุมสอง ในหลุมนี้มีหุ่นที่อยู่ในท่าคุกเข่านี้ประมาณ 160 ตัว








หุ่นบางตัวมีรายละเอียดมากอย่างไม่น่าเชื่อ เช่นลายเส้นผมและเปียของหุ่นตัวนี้ (ถ่ายจากโปสเตอร์)


พื้นรองเท้าก็ยังมีดอก (ถ่ายจากโปสเตอร์)


(บน) อิฐที่ใช้เป็นแผ่นปูพื้นโรงทหาร (ล่าง) ส่วนของท่อนซุงที่ใช้พาดเป็นคานเหนือโรงเก็บหุ่นทหาร


อาวุธที่พบในปิงหมาหย่ง ก็เป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าหุ่น นักโบราณคดีพบอาวุธรวม 40,000 ชิ้น แม้ทหารที่อยู่ในนี้จะเป็นทหารหุ่น แต่อาวุธที่อยู่ในมือหุ่นเป็นของจริงทั้งหมด การที่มีอาวุธจำนวนมากหายไป และมีร่องรอยการบุกทำลาย ทำให้เชื่อได้ว่าเกิดจากน้ำมือของผู้ที่ต้องการช่วงชิงบัลลังก์จากทายาทจิ๋นซี

อาวุธหลายชิ้นที่ขุดพบที่นี่ พบในขณะอยู่ในสภาพดี ยังคงความวาวและความคมอยู่ พบหลักฐานของการชุบโครเมียมเพื่อรักษาความคมด้วย เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ เพราะชาติตะวันตกเพิ่งคิดค้นวิธีชุบโครเมียมในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นี่เอง นอกจากนี้ยังพบว่าส่วนผสมของโลหะที่นำมาทำอาวุธยังแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของอาวุธแต่ละชนิดอีกด้วย

(ซ้ายบน) หมุดเหล็ก (ขวาบน) หัวค้อนและหัวขวาน (ซ้ายล่าง) ลิ่มและสิ่วเหล็ก (ขวาล่าง) ไกหน้าไม้ที่ทำจากสำริด 


ทหารม้า


พลธนูในท่ายืน ไม่มีเกราะ ขุดพบจากบริเวณนอกกองพลธนูในหลุมสอง หลุมนี้พบหุ่นในท่านี้ 172 ตัว




เกอ อาวุธชั้นดี เหมาะสำหรับเฉาะหัวศัตรู ฟาดฟันเปิดทาง หรือแม้แต่ใช้ในการเกี่ยวดึงอาวุธออกจากมือศัตรู




หุ่นทหารที่เพิ่งขุดใหม่ยังมีสีดั้งเดิมติดอยู่ ก่อนที่จะหลุดร่อนไปภายในเวลาไม่นาน (ถ่ายจากโปสเตอร์)










ก้านร่ม ดูเหมือนจะมีกลไกอะไรสักอย่าง ไม่ได้อยู่ฟัง และถึงฟังก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี


ขลุมม้าทำจากเงินและทอง


ภายในอาคารนิทรรศการ


ห้องแสดงการตกแต่งภายในของบ้านเรือนในโรมันโบราณที่อยู่ร่วมยุคเดียวกับจิ๋นซี


วัตถุโบราณจากโรมันร่วมยุค






เราออกจากปิงหมาหย่งตอนบ่ายสาม หลังจากนั้นก็นั่งรถบัสกลับเข้าซีอาน จะได้เวลาเดินทางไกลอีกแล้ว เพราะคืนนี้เราจะต้องนั่งรถไฟตู้นอนจากซีอานไปยังเมืองหยินชวน แต่ก่อนอื่นต้องรีบหาข้าวกินก่อน หิวไม่ใช่เล่น เพราะหลังจากมื้อเช้าสุดสยองนั่นก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย มื้อนี้จึงกินควบกลางวันและเย็นเลย ร้านอาหารที่เราเลือกกินก็อยู่แถวสถานีรถไฟอีกตามเคย แต่ร้านเมื่อเช้าไม่เอาแล้ว เข็ดจนตาย





จานนี้เหนียวไปหน่อย พอกินได้




"โต๊ะอาหารผู้เจริญ ย่อมไม่เหลือข้าว ไม่เหลือกับ" ระยะหลังนี้คนจีนจำนวนมากเริ่มมีค่านิยมกินทิ้งกินขว้าง สั่งเยอะกว่าที่จะกิน จนทางการต้องมีการรณรงค์ทางสื่อหลายรูปแบบ เพื่อดัดนิสัยแย่ ๆ นี้ ป้ายนี้ติดอยู่ในร้านอาหาร


แวะซื้อขนมและผลไม้เพื่อเอาไปกินบนรถไฟ




ห้องรอรถไฟ


รถไฟออกตรงเวลา 18:35 น. ปลายทางหยินชวนอยู่ห่างออกไป 700 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 14 ชั่วโมง หรือหนึ่งคืนกับครึ่งวัน รถไฟขบวนนี้ก็เป็นขบวนนอนแบบผมที่เคยนั่งมาหลายครั้งแล้ว จะว่าไปผมก็ชอบรถไฟแบบนี้เหมือนกัน เพราะนั่งสบาย นอนสบาย อาหารแย่หน่อยก็ไม่เป็นไร มาม่งมาม่าก็พกขึ้นไปกินเองได้ น้ำร้อนมีให้บริการตลอด การควบคุมการสูบบุหรี่ก็ดี คืนนี้จึงเป็นคืนสบาย ๆ อีกคืนนึง

ต้นทางซีอาน ปลายทางหยินชวน


สองวันที่ผ่านมาพวกเราเอาแต่เดินเที่ยว เดินถ่ายรูป เพิ่งจะมีโอกาสมาทำความคุ้นเคยกับเพื่อนผู้ร่วมทางบนรถไฟในคืนนี้ สาว ๆ กลุ่มเราห้าคนเป็นนางพยาบาลจาก รพ. ศิริราชยกก๊วน ชอบเที่ยว ชอบถ่ายรูป กินง่ายอยู่ง่าย ขึ้นเขาลงห้วย ย่ำโคลนข้ามท้องร่องผ่านมาหมด แหม ที่แท้ก็คอเดียวกันนี่เอง แบบนี้ก็คุยเพลินล่ะ กลุ่มนี้มีป้าอ้อย พี่ใหญ่ของกลุ่ม จิ ไก่ เท้ง และติ๋ว วงสนทนาของเราในคืนนี้ไม่ได้มีแค่ชาวไทยเท่านั้น ยังมีหนุ่มจีนหน้ามนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็คุยกับพวกเราอย่างเป็นกันเองด้วย 





เผยแพร่ : 13 พ.ย. 56 แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 พ.ย. 64